วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

หลักการเลือกพาเลทสีให้เหมาะสม

ที่มาข้อมูล: http://designmodo.com/create-color-combinations/
ผู้เขียน:

หนึ่งในสิ่งที่ท้าทายนักออกแบบอย่างหนึ่ง คือ การตัดสินใจเลือกสีที่แสดงตัวตนขององค์กรหรือสื่อสารถึงบางสิ่งบางอย่าง การจับคู่สีเป็นมากกว่าแค่การเลือกสี 2 สีมาใช้งาน แต่ยังมีเรื่องของทฤษฏีสีเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งวันนี้เรามีข้อแนะนำในการเลือกพาเลทสีมาฝากกัน


เริ่มต้นด้วยวงจรสี

คุณยังจำวงจรสีสมัยยังเป็นเด็กได้ไหม วงจรสีสามารถบอกคู่สีใกล้เคียงและคู่สีตรงกันข้ามได้ ภายในวงจรประกอบด้วย

1. สีขั้นที่ 1 (แม่สี) : สีแดง สีเหลือง สีนำ้เงิน

2. สีขั้น 2 (เกิดจากการนำแม่สีมาผสมกัน) : เขียว ม่วง ส้ม

3. สีขั้น 3 (เกิดจากการนำแม่สีผสมกับสีขั้นที่ 2) : ส้มเหลือง (yellow-orange), ส้มแดง (red-orange), ม่วงแดง (red-violet), ม่วงน้ำเงิน (blue-violet), เขียวน้ำเงิน (blue-green), เขียวเหลือง (yellow-green)


แนวทางการเลือกคู่สี มีหลายรูปแบบให้เลือกใช้งาน ได้แก่



Monochromatic: เลือกสีแรก และ สีอื่นๆในช่องสีนั้น

Complementary: เลือกคู่สีที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันในวงจรสี

Primary: เลือก 3 สีที่มีระยะห่างที่เท่ากันในวงจรสี (เป็นสามเหลี่ยม)

Analogous: เลือก 3 สีที่อยู่ติดกันในวงจรสี

Split Complementary: เลือกสีแรก และสีที่อยู่ฝั่งซ้ายและขวาของสีที่อยู่ตรงข้ามกับสีแรกในวงจรสี

Double Complementary (Rectangle): เลือกแม่สี 2 สี และสีที่อยู่ตรงข้ามกับแม่สีในวงจรสี





สีดำ สีขาว และสีกลาง (Neutral Color)


นอกจากการเลือกสีในพาเลทแล้ว ยังมีสีที่สำคัญไม่น้อยกว่าสีอื่นๆ ได้แก่ สีดำ สีขาวและสีกลางเหล่านี้มักถูกใช้เป็นส่วนประกอบงานเสมอ

Neutral Color คือ สีกลาง ไม่ได้อยู่ในโทนสีใดๆ ซึ่งสามารถอยู่ได้กับทุกสี สามารถเข้าคู่กับโทรสีอื่นๆได้ง่าย เช่น สีเทา สีน้ำตาล สีครีม สีเบจ เป็นต้น







สีอ่อน สีเข้ม (Toning and Tinting)


นักออกแบบหลายคนเลือกที่จะใช้สีไม่กี่สี แล้วใช้การปรับความอ่อนเข้มกับสีนั้นแทนการเลือกใช้สีหลายสี

Tint:  เพิ่มสีขาว
Shade: เพิ่มสีดำ
Tone: เพิ่มสี เทา ดำ หรือ ขาว

การใช้ Tint หรือ Shade จะทำให้สีในพาเลทมีความหลากหลายมากขึ้น โดยที่สียังอยู่ในโทนเดิม (เหมือนกับการใช้ฟอนต์เดียวกัน เพียงแค่ปรับเป็นตัวหนาหรือตัวเอียงเท่านั้น)





เลือกใช้สีที่เป็นกระแส...ต้องระวัง



มีสีเทรนด์อยู่มากมายให้เลือกใช้ ซึ่งควรจะใช้อย่างรอบคอบ เพราะสีเหล่านี้ไม่เหมาะที่จะใช้ในระยะยาว อาจจะเลือกใช้เพียงแค่ 1-2 สีในพาเลทสีของคุณ โดยปกติเรามักจะเลือกสีที่นิยมในทุกยุคสมัย สามารถใช้ได้เรื่อยๆ เพื่อสีเป้นที่จดจำในแบรนด์นั้นๆ





หลีกเลี่ยงสีรุ้ง



การใช้สีจะส่งผลดีอย่างมากเมื่อถูกหยิบใช้อย่างเหมาะสม คุณไม่จำเป็นต้องมีสี 5 10 หรือ 15 สีในจานสีของคุณ เพียงแค่ 2-3 สี รวมกับสีกลางก็เพียงพอแล้วในการใช้งาน





การเลือกใช้สีตัวอักษร


เมื่อคุณจะเลือกใช้สีในงานออกแบบ ต้องนึกถึงสีของตัวอักษรด้วยว่าควรจะใช้สีใด นอกจากว่าคุณจะใช้สีเพียงแค่ ดำ ขาว เทา สำหรับสีบนตัวอักษรจะส่งผลต่อการอ่าน หรือ บ่งบอกการใช้งาน เช่น เมนูลิงก์ เป็นต้น สีตัวอักษรที่เหมาะกับการอ่านควรจะมีสีที่ต่างจากพื้นหลังพอสมควร เพื่อความสบายตาในการอ่าน





เลือกใช้สีที่สอดคล้องกับเนื้อหา

 

การเลือกใช้งานสีที่ดี ไม่ใช่เพียงแค่การจับคู่สีที่เหมาะสม แต่ต้องคำนึงความสอดคล้องกับเนื้อหาด้วย เช่น ในกรณีที่เป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ ก็มักจะใช้สีเขียว หรือ สีน้ำตาลเป็นองค์ประกอบหลัก หรือ กรณีเป็นเว็บไซต์ธนาคาร ก็มักจะใช้สีฟ้า ที่ส่งเสริมความน่าเชื่อถือ

แต่ในบางครั้งที่คุณไม่แน่ใจว่าควรจะใช้สีใด ให้ลองสังเกตจากรูปภาพที่ให้บนงาน จากนั้นลองเลือกสีที่อยู่ในรูปภาพมาเป็นใช้เป็นพาเลทสีพื้นฐานในการออกแบบ วิธีการนี้ก็สามารถช่วยเลือกคู่สีที่เหมาะสมได้เช่นกัน





เลือกใช้พาเลทสีเดียวกันทั้งงาน


เมื่อคุณมีพาเลทสีที่เหมาะสมแล้ว ควรจะใช้พาเลทสีนั้นตลอดทั้งงาน สร้างหลักเกณฑ์ในการใช้สีให้เป็นระบบ



สรุปสาระสำคัญ

เมื่อคุณได้พาเลทสีแล้ว ลองพิจารณาพาเลทสีนั้นว่าเหมาะสมไหม หากยังไม่พอใจ ก็ลองหาสีอื่น หรือ กลับไปดูทฤษฎีสีแล้วลองเปลี่ยนสีใหม่ดูซักสี ข้อควรจำในการสร้างพาเลทสีควรจะเลือกใช้พาเลทสีที่มีความโดดเด่นและมีความหลากหลาย รวมถึงสอดคล้องกับเนื้อหาอยู่เสมอ เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของผู้ใช้


ผู้แปลบทความ: Pixel Me Design

สนใจอ่านต้นฉบับ สามารถกด Link ด้านล่าง
http://designmodo.com/create-color-combinations/






ขอขอบคุณสำหรับการติดตาม จะมาแบ่งปันเกร็ดความรู้และบทความน่าสนใจด้านออกแบบจากทั่วทุกมุมโลก มาอัพเดตให้ได้เรียนรู้ไปด้วยกันที่นี่เสมอ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

มีข้อแนะนำหรือติชม สามารถติดต่อมาได้ตามช่องทางด้านล่าง
Email: savethequeen16@hotmail.com
Line ID: maomao_16
www.pixelmedesign.com

วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2559

Hitachi เปิดตัวหุ่นยนต์มนุษย์ EMIEW3

ที่มาข้อมูล : www.japantrends.com
ผู้เขียน : William

 

ด้วยเทคโนโลยีและการออกแบบที่พัฒนาต่อยอดมาจาก หุ่นยนต์รุ่นก่อนหน้านี้ในปี 2005 ทำให้มีหุ่นยนต์รุ่นนี้มีประสิทธิภาพที่มากขึ้น ด้วยไมโครโฟนบริเวณหน้าและเซ็นเซอร์ 14 ชิ้น ทำให้สามารถสื่อสารกับมนุษย์ได้ถึง 3 ภาษา และยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์เพื่อแนะนำข้อมูลการเดินทางหรือข้อมูลอื่นๆได้อีกด้วย

หุ่นยนต์รุ่นนี้ มีน้ำหนัก 15 กิโลกรัม สูง 90 เซนติเมตร เคลื่อนไหวได้รวดเร็วพอๆกับการเดินของมนุษย์ และมีระบบการทรงตัวที่ดี สามารถลุกขึ้นได้เองเมื่อล้มลง รู้จักการลดความเร็วเมื่อต้องผ่านมุมทางเดิน และหลีกเลี่ยงการชนกับสิ่งของ และยังสามารถรับมือกับพื้นทางเดินที่มีระดับความสูงที่แตกต่างกัน


 




สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับหุ่นยนต์รุ่นนี้ คือ สามารถบอกได้ว่าผู้ใดที่ดูเหมือนหลงทาง หรือต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งหุ่นยนต์ก็จะตรงเข้าไปหาและสื่อสารกับคนเหล่านั้นทันที






ในอนาคตหุ่นยนต์รุ่นนี้อาจจะได้เป็นไกด์แนะนำนักท่องเที่ยวในสถานีชินจูกุระหว่างโอลิมปิกปี2020 หรือ ช่วยคุณหาสิ่งของภายในร้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก็เป็นได้

ผู้แปลบทความ: Pixel Me Design

สนใจอ่านต้นฉบับ สามารถกด Link ด้านล่าง
http://www.japantrends.com/hitachi-emiew3-cute-humanoid-robot-customer-service/






ขอขอบคุณสำหรับการติดตาม จะมาแบ่งปันเกร็ดความรู้และบทความน่าสนใจด้านออกแบบจากทั่วทุกมุมโลก มาอัพเดตให้ได้เรียนรู้ไปด้วยกันที่นี่เสมอ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

มีข้อแนะนำหรือติชม สามารถติดต่อมาได้ตามช่องทางด้านล่าง
Email: savethequeen16@hotmail.com
Line ID: maomao_16
www.pixelmedesign.com

วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2559

ผจญภัยในโลกการ์ตูนของ "นะโอะกิ อุระซะวะ"

ที่มาข้อมูล: www.spoon-tamago.com
ผู้เขียน: Johnny



นะโอะกิ อุระซะวะ (Naoki Urasawa) ถือเป็นบุคคลสำคัญในวงการการ์ตูนของญี่ปุ่น ด้วยอายุเพียง 56 ปี แต่ผลงานการ์ตูนของเขาถูกจำหน่ายแล้วมากกว่า 120 ล้านเล่ม โดยเฉพาะเรื่อง Master Keaton, Monster และ 20th Century Boys ได้ถูกนำมาสร้างเป็นอานิเมะและภาพยนต์แล้วด้วย ซึ่งเอกลักษณ์งานเขียนเต็มเปี่ยมไปด้วยความเข้มข้น ความซับซ้อน ความตื่นเต้นและความพิศวงเสมอ

เมื่อปีที่แล้ว Setagaya Literary Museum ได้จัดแสดงงานเขียนของ Urasawa ภายใต้งาน "A Life in Drawing" เป็นเวลา2เดือนครึ่ง แต่แม้ว่านิทรรศการจะปิดลงไปแล้วเมือเดือนมีนาคม แต่ยังคงสามารถเข้ามาชมรูปวาดได้สำหรับคนที่พลาดไป



ภายในนิทรรศการประกอบด้วยคอลเลคชั่นภาพวาดขนาดใหญ่, ต้นฉบับ , แบบร่าง, หนังสือจดบันทึก, สมุดวาดรูปตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก ทั้งหมดนี้ถูกจัดวางแสดงโดย Torafu Architects ซึ่งผู้ออกแบบนิทรรศการหวังว่าผู้ที่เข้ามาชมจะสัมผัสได้ถึงรายละเอียดของขบวนการผลิตผลงานออกมาให้ได้ชมกัน


ในจุดแสดงนี้ต้องการสื่อให้เห็นถึงความคมชัดในลายเส้นของ Urasawa ทั้งงานภาพนิ่งและความเคลื่อนไหว









 
ภาพขยายของต้นฉบับถูกนำมาแสดงบนผนังแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์งานเขียนของ Urasawa ที่เน้นรายละเอียดของรูปภาพอย่างมาก




ภาพบนผนังโค้งนี้แสดงให้เห็นถึงอารมณ์ของตัวละครที่สื่อออกมาอย่างชัดเจน






ผู้แปลบทความ: Pixel Me Design

สนใจอ่านต้นฉบับ สามารถกด Link ด้านล่าง
http://www.spoon-tamago.com/2016/04/18/walk-through-the-world-of-manga-artist-naoki-urasawa/#more-36109






ขอขอบคุณสำหรับการติดตาม จะมาแบ่งปันเกร็ดความรู้และบทความน่าสนใจด้านออกแบบจากทั่วทุกมุมโลก มาอัพเดตให้ได้เรียนรู้ไปด้วยกันที่นี่เสมอ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

มีข้อแนะนำหรือติชม สามารถติดต่อมาได้ตามช่องทางด้านล่าง
Email: savethequeen16@hotmail.com
Line ID: maomao_16
www.pixelmedesign.com

วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2559

สะสมแสตมป์กับตู้กดน้ำ Coca-Cola

ที่มาข้อมูล: www.japantrends.com
ผู้เขียน: William


Coca-Cola เปิดตัวตู้กดน้ำใหม่ "Sumaho" ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน App "Coke on"
ตู้กดน้ำถือเป็นของคู่กันกับคนญี่ปุ่นโดยเฉพาะในเมืองหลวง ขายสินค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำดื่ม อาหาร หนังสือพิมพ์ ไปจนถึงของเล่น สำหรับการชำระเงินก็สะดวกมากตั้งแต่สามารถใช้ IC Card ในการชำระเงินได้





Coca-Cola เคยเปิดตัวตู้กดน้ำที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ (Eco vending machines) มาแล้วในอดีต
แต่ในปัจจุบันเป็นยุคของการสร้างการโต้ตอบหว่างผู้ซื้อกับสินค้า (Interactive & Interface)

เมื่อปี 2010 ได้เปิดตัว ตู้กดน้ำหน้าจอสัมผัสที่โตเกียวซึ่งเป็นที่สนใจมากใน Social Media เพราะตู้นี้สามารถแนะนำเครื่องดื่มตามลักษณะและสถิติของผู้ซื้อที่ยืนอยู่ข้างหน้า แต่ก็ถือว่าเก่าไปแล้วในปัจจุบัน





สำหรับแคมเปญใหม่ของ Coka-Cola เริ่มแล้วเมื่อวันที่ 8 เมษา เพียงดาวนืโหลด App ทั้ง IOS และ Android เพื่อสะสมแสตมป์ทุกครั้งที่ซื้อเครื่องดื่มผ่านตู้กดน้ำ เพียงนำมือถือไปยื่นใกล้ๆกับจอแสดงราคา ระบบก็จะทำการชำระสินค้าผ่าน e-money และแสตมป์ก็จะถูกเก็บไว้ในชื่อของคุณ

สะสมเพียง 15 ครั้งก็จะสามารถแลกน้ำดื่มฟรี 1 ขวดแบบใดก็ได้ ซึ่งขั้นตอนการแลกก็สะดวกมาก เพียงยืนอยู่หน้าตู้ เลือกน้ำดื่มที่ต้องการ แล้วกดส่ง...ก็จะได้น้ำดื่มขวดนั้นทันที





หากดาวน์โหลดภายใน 30 มิถุนายนนี้ จะได้รับแสตมป์ 5 ดวงทันที ทาง Coca-Cola หวังว่าจะมียอดดาวน์โหลด 2 ล้านครั้งภายในสิ้นปี 2016 ซึ่งจะทำให้ได้รับข้อมูลผู้บริโภคจำนวนมาก และในอนาคตก็มีแผนที่จะพัฒนาตู้น้ำให้รองรับการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน ให้ได้ 140,000 เครื่องภายในสิ้นปีนี้





ผู้แปลบทความ: Pixel Me Design

สนใจอ่านต้นฉบับ สามารถกด Link ด้านล่าง
http://www.japantrends.com/coca-cola-vending-machines-smartphone-stamp-rally/






ขอขอบคุณสำหรับการติดตาม จะมาแบ่งปันเกร็ดความรู้และบทความน่าสนใจด้านออกแบบจากทั่วทุกมุมโลก มาอัพเดตให้ได้เรียนรู้ไปด้วยกันที่นี่เสมอ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

มีข้อแนะนำหรือติชม สามารถติดต่อมาได้ตามช่องทางด้านล่าง
Email: savethequeen16@hotmail.com
Line ID: maomao_16
www.pixelmedesign.com

วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2559

10 ตัวอย่างสินค้าน่ารัก..สัญชาติญี่ปุ่น

ที่มาข้อมูล: kaboomi studio


 

Kaboomi Studio เป็นกลุ่มคนญี่ปุ่นที่ร่วมแบ่งปันงานออกแบบสไตล์ญี่ปุ่น โดยจะสรรหาสิ่งน่าสนใจและแชร์ทุกวัน (จันทร์-ศุกร์) สามารถติดตามได้ทาง Facebook และ Twitter โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "สิ่งของที่น่ารักๆ"


ถุงผ้าลายเครื่องซักผ้า

Washing-machine laundry-bag




ดาวกระจายแม่เหล็ก

Shuriken magnets




ที่ขั้นหนังสือรูปจระเข้

Crocodile bookmark




ที่วางฟองน้ำ

Rabbit sponge-holder




ตัวจับตะูปู

Pinocchio nail tool




ต้นกระปองเพชรเตือนความจำ

Cactus cork memo-block




ชั้นวางกระดาษทิชชู่ทรงก้อนเมฆ

Cloud toilet paper shelf




ที่กั้นหนังสือยอดมนุษย์

Superhero bookend




ชุดคาวบอยจับหนูสำหรับน้องแมว

cowboy-mouse cat-costume




ตัวแขวนรูปลิง

monkey hooks




ผู้แปลบทความ: Pixel Me Design

สนใจอ่านต้นฉบับ สามารถกด Link ด้านล่าง
https://www.facebook.com/kaboomistudio






ขอขอบคุณสำหรับการติดตาม จะมาแบ่งปันเกร็ดความรู้และบทความน่าสนใจด้านออกแบบจากทั่วทุกมุมโลก มาอัพเดตให้ได้เรียนรู้ไปด้วยกันที่นี่เสมอ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

มีข้อแนะนำหรือติชม สามารถติดต่อมาได้ตามช่องทางด้านล่าง
Email: savethequeen16@hotmail.com
Line ID: maomao_16
www.pixelmedesign.com

วันศุกร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559

Nasa Graphic Manual ถูกตีพิมพ์อีกครั้ง

ที่มาข้อมูล: www.itsnicethat.com
ผู้เขียน: Jenny Brewer

 


หลังจากมีผู้ร่วมสนับสนุนให้มีการตีพิมพ์ Nasa Graphics Standard Manual ซ้ำอีกครั้ง เป็นจำนวนสูงถึง 8,798 คน ใน Kickstarter เป็นที่มาทำให้หนังสือเล่มนี้ถูกนำมาพิมพ์ซ้ำอีกครั้ง

Nasa Design Manual ถูกพิมพ์ขึ้นตั้งแต่ปี 1974 โดยบริษัท Danne & Blackburn ใน New York คู่มือฉบับนี้ได้กำหนดวิธีการใช้กราฟฟิคสำหรับทุกอย่างตั้งแต่หัวจดหมายถึงหัวจรวด  Pentagram ได้ร่วมมือกับ Jesse Reed และ Hamish Smyth เพื่อทำการคัดลอกและพิมพ์ซ้ำจากหนังสือต้นฉบับของ Richard Danne

ภายในคู่มือเล่มนี้ ประกอบด้วย คำนำซึ่งเขียนโดย Richard, บทความจาก New York magazine เขียนโดย Christopher Bonanos และตัวอย่างวัสดุพิเศษที่คุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อน จาก DanneDesign 



Danne & Blackburn: Nasa Graphics Standards Manual Reissue. Image by Brian Kelley.



Danne & Blackburn: Nasa Graphics Standards Manual Reissue. Image by Brian Kelley.



Danne & Blackburn: Nasa Graphics Standards Manual Reissue. Image by Brian Kelley.



Danne & Blackburn: Nasa Graphics Standards Manual Reissue. Image by Brian Kelley.



Danne & Blackburn: Nasa Graphics Standards Manual Reissue. Image by Brian Kelley.


ผู้แปลบทความ: Pixel Me Design

สนใจอ่านต้นฉบับ สามารถกด Link ด้านล่าง
http://www.itsnicethat.com/news/nasa-graphics-standards-manual-reissue-general-release-130416






ขอขอบคุณสำหรับการติดตาม จะมาแบ่งปันเกร็ดความรู้และบทความน่าสนใจด้านออกแบบจากทั่วทุกมุมโลก มาอัพเดตให้ได้เรียนรู้ไปด้วยกันที่นี่เสมอ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

มีข้อแนะนำหรือติชม สามารถติดต่อมาได้ตามช่องทางด้านล่าง
Email: savethequeen16@hotmail.com
Line ID: maomao_16
www.pixelmedesign.com